ปราสาทที่ได้ชื่อว่ามีสภาพสมบูรณ์แห่งหนึ่งในอิตาลี มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดผ่านกาลเวลามายาวนาน กว่า2,000ปี

 Sirmione จัดได้ว่าเป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอิตาลีเพราะมีอายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบ การ์ด้า (Garda Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นซีร์มิโอเน่จึงถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน
เมืองนี้จะตั้งอยู่ทางใต้ของทะเลสาบ Garda ในเขตจังหวัด Brescia แห่งแคว้น Lombardy ทางเหนือของประเทศอิตาลี โดยตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของแหลมเล็กๆ ที่ชื่อว่า Sirmio สถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นเมืองโบราณที่มีผู้คนตั้งรกรากมายาวนานตั้งแต่ยุคคริสตกาลแห่งนี้ถือเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีและถึงแม้เมืองนี้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ถือว่าเป็นเมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลอันโดดเด่นด้วยเป็นสถานที่ตั้งของปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี
 โดยในเมืองเต็มไปด้วยรีสอร์ทหรูที่ส่วนมากมีบริการสปาน้ำแร่เพื่อผ่อนคลายและบำบัดรักษาโรคนอกจากเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนแล้ว เมืองนี้ยังมีโบราณสถานอายุเก่าแก่นับพันปีอันทรงคุณค่าที่ยังคงหลงเหลือในเขตเมือง ไม่ว่าจะเป็น Sant’Anna della Rocca โบสถ์เล็กๆ ยุคศตวรรษที่ 12 San Pietro in Mavino โบสถ์ที่เปลี่ยนผ่านศิลปะหลายยุคสมัย Santa Maria Maggiore โบสถ์ที่โดดเด่นเรื่องภาพวาดเฟรสโกและแน่นอนว่าแลนด์มาร์คสำคัญที่สุดของเมืองต้องเป็น Scaligero Castle ปราสาทป้อมปราการริมทะเลสาบที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 13 โดยตระกูล Della Scala ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในช่วงระหว่างปี 1262-1387
 ปราสาทสแกลิเจอร์ (Castello Scaligero หรือชื่ออังกฤษคือ Scaliger Castle) เดิมเป็นที่อยู่ของพวกขุนนางในอดีต ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม อยู่ติดทะเลสาบ มีท่าเรือ มีสะพาน และมีคูน้ำล้อมรอบ มีฝูงเป็ดว่ายน้ำและมาเดินเล่นบริเวณชายหาดเยอะเลย แค่เดินเล่นรอบๆ ข้างล่างก็สวยแล้ว แต่ ณ จุดนี้ต้องปีนหอคอยขึ้นไปข้างบนให้ได้ ท่านจะสามารถชมวิวแบบมุมสูงได้แบบพาโนรามา ปราสาทนี้ได้ชื่อว่ามีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลีนี้ถือเป็นปราสาทที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดเพราะตั้งอยู่ริมน้ำ มีแนวกำแพงอยู่ในน้ำ และมีสะพานเปิดปิดได้เอาไว้ควบคุมการสัญจร
ด้านในตัวปราสาทจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร,ร้านไอศกรีมและร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่ระลึก นักท่องเที่ยวเยอะ แต่ไม่ถึงกับหนาแน่นจนเกินไป บวกกับความคลาสสิคย้อนยุคของเมือง บ้านเรือนต่างๆ ยังคงกลิ่นอายแบบยุคกลางไว้เต็มเปี่ยม ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่ไหน