491 จำนวนผู้เข้าชม |
เมืองอ็องเฟลอร์ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแซนก็จริง แต่ไม่ได้อยู่ริมแม่น้ำพอดีเป๊ะๆ แต่อยู่ในคลองสาขาที่แยกออกมาเฉพาะส่วนของเมืองอ็องเฟลอร์เท่านั้น ทำให้อ็องเฟลอร์เป็นเมืองเล็กที่ยังรักษาบรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ ในแง่การท่องเที่ยวแล้ว อ็องเฟลอร์เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่น่าเที่ยวมาก เมืองอ็องเฟลอร์แห่งนี้ยังอยู่ในแคว้นนอร์มังดีเหนือ (Upper Normandy) เช่นเดียวกับรูอ็อง แต่ก็เกือบถึงพรมแดนที่ติดกับแคว้นนอร์มังดีใต้แล้ว
เนื่องจากเป็นเมืองท่าขนาดเล็ก ตัวเมืองดั้งเดิมจึงตั้งอยู่ริมน้ำ และเคยเป็นเมืองท่าสำหรับขนส่งสินค้าจากรูอ็องไปยังพื้นที่อื่นๆ (เช่น ข้ามไปยังเกาะอังกฤษ) ปัจจุบันเรือขนส่งสินค้าหายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงเรือเล็กของบรรดาเศรษฐีทั้งหลายจอดกันอยู่เรียงรายกลางเมือง
ท่าเรือของอ็องเฟลอร์มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสหลายช่วง เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใน “สงครามร้อยปี” (Hundred Years’ War) ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส และหลังจากนั้นก็เป็นท่าเรือสำหรับนักเดินทางค้นพบโลกใหม่ในยุโรปหลายคณะ ชาวฝรั่งเศสที่ไปก่อตั้งมณฑลควิเบกในแคนาดา ก็มาจากเมืองอ็องเฟลอร์แห่งนี้
ความสวยงามของย่านเมืองเก่าในอ็องเฟลอร์ ทำให้มีศิลปินและจิตรกรมาพำนึกอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก (รวมถึงโมเนต์ด้วย) และถือเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งของศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสต์ (impressionist) ในยุโรป
สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญของเมืองอ็องเฟลอร์คือโบสถ์เก่า Saint-Catherine Church ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ความน่าสนใจของโบสถ์แห่งนี้คือสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ซึ่งแตกต่างไปจากโบสถ์อื่นๆ ในยุโรปที่เป็นอิฐและปูน (อย่างน้อยก็ระดับฐานราก) ถือเป็นโบสถ์ไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตัวโบสถ์จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย ห่างจากริมน้ำไม่มาก เดินเข้าไปนิดเดียว
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของโบสถ์แห่งนี้คือสร้าง “หอระฆัง” แยกจากตัวอาคารหลัก คือสร้างไว้คนละฟากถนนกันกับโบสถ์ ถือเป็นของแปลกที่ไม่ค่อยเจอวิธีการสร้างหอระฆังแบบนี้เท่าไรนักในยุโรป